ดวงตาไม่ใช่เพียงอวัยวะที่ทำให้สุนัขมองเห็นเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่กระตือรือร้น ร่าเริง และสามารถแสดงความรู้สึกกับเจ้าของได้อย่างลึกซึ้ง อย่างไรก็ตาม “โรคตาในสุนัข” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย โดยเฉพาะในสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก ชิสุ หรือพันธุ์ที่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรม หากเจ้าของไม่สังเกตเห็นอาการตั้งแต่ต้นๆ อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวรได้
โรคตาที่พบบ่อยในสุนัขมีหลายรูปแบบ โดยคนส่วนใหญ่อาจไม่รู้จัก เช่น ตาแห้ง (Dry Eye) ซึ่งเกิดจากการที่ดวงตาขาดน้ำหล่อเลี้ยง ทำให้เคืองตาและเกิดขี้ตาเหนียวข้น ต้อกระจก (Cataract) คือภาวะเลนส์ตาขุ่น ซึ่งส่งผลต่อการมองเห็นในที่แสงน้อย สุนัขมักมีดวงตาเป็นสีเทาขาว ส่วน ต้อหิน (Glaucoma) เป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดจากความดันในลูกตาสูงผิดปกติ อาจทำลายเส้นประสาทตาอย่างถาวรและทำให้ตาบอดได้ นอกจากนี้ยังมี แผลกระจกตา (Corneal Ulcer) จากการบาดเจ็บ และ หนังตาผิดปกติ ที่พบบ่อยในสุนัขหน้าหย่อนอย่างบลูด็อกหรือชาเป่ย ซึ่งอาจทำให้ขนเสียดสีกับกระจกตาเรื้อรัง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การรักษาโรคตาในสัตว์เลี้ยงมีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะการนำ “สเต็มเซลล์” มาใช้รักษาโรคเรื้อรังอย่างตาแห้งและแผลกระจกตาลึก เช่น งานวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่พัฒนา “กระจกตาเทียมสามมิติจากสเต็มเซลล์” สำหรับรักษาสุนัขที่มีแผลลึกที่กระจกตา ซึ่งนอกจากจะลดการอักเสบได้ดีแล้ว ยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายโดยไม่ต้องพึ่งพาเนื้อเยื่อจากสัตว์อื่น ถือเป็นความหวังใหม่ในวงการสัตวแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีการใช้สเต็มเซลล์จากไขมันหรือไขกระดูกของตัวสุนัขเอง เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำตาในกรณีตาแห้งแบบเรื้อรัง
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.infoquest.co.th/2024/412793
การดูแลดวงตาสุนัขไม่ใช่เรื่องยาก หากเจ้าของเข้าใจและใส่ใจเรื่องเล็กๆ อย่างการเช็ดรอบดวงตาด้วยน้ำเกลือหรือน้ำอุ่นเป็นประจำ หลีกเลี่ยงฝุ่น ลมแรง และสารเคมี รวมถึงตัดขนรอบดวงตาให้สั้นอยู่เสมอ ยิ่งในสุนัขพันธุ์ที่ขนปกคลุมใบหน้า การตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะในสุนัขที่มีความเสี่ยงหรือมีอายุมากขึ้น จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้มากยิ่งขึ้น หากคุณสังเกตเห็นอาการผิดปกติ เช่น ตาแดง ตาโปน ขี้ตาเยอะ หรือสุนัขเริ่มเดินชนของโดยไม่ตั้งใจ อย่ารอช้า ควรรีบพาเขาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการดูแลโดยเร็วที่สุด
ทางเลือกใหม่ในการรักษา โรคตาในสุนัขด้วย “สเต็มเซลล์”
ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาที่ล้ำสมัยมากขึ้น เช่น การใช้สเต็มเซลล์ในสุนัข ซึ่งเป็นวิธีฟื้นฟูเซลล์ดวงตาที่เสียหาย เช่น ในกรณีของโรคตาแห้งเรื้อรังหรือต้อหินที่ไม่ตอบสนองต่อยา สเต็มเซลล์จากไขมันหรือไขกระดูกของสุนัขเองสามารถช่วยลดการอักเสบและซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้ และมีผลการทดลองหลายกรณีก็แสดงให้เห็นถึงความหวังใหม่ในการรักษา “โรคตาสุนัข” ที่เคยรักษายาก การปรึกษาสัตวแพทย์เฉพาะทางจึงเป็นก้าวสำคัญสู่การดูแลดวงตาให้เพื่อนรักสี่ขามองโลกได้สดใสอีกครั้ง