ในยุคที่การดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงก้าวหน้าไปไกลกว่าที่เคย เราคงเคยได้ยินเรื่อง “สเต็มเซลล์” หรือ “เซลล์ต้นกำเนิด” กันมาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมว่าตอนนี้มีนวัตกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ “ธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับสัตว์เลี้ยง” ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในวงการสัตวแพทย์ทั่วโลก มาทำความเข้าใจกันง่ายๆ ว่าธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับสัตว์เลี้ยงคืออะไร
แล้ว “ธนาคารสเต็มเซลล์” คืออะไร?
ลองจินตนาการถึงธนาคารที่เราฝากเงินไว้ใช่ไหมครับ “ธนาคารสเต็มเซลล์” ก็มีแนวคิดคล้ายกัน แต่เปลี่ยนจากฝากเงินมาเป็น ฝากสเต็มเซลล์ของสัตว์เลี้ยง เราเอง หลักการทำงานคือ
- เก็บเกี่ยว สัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อที่มีสเต็มเซลล์อยู่มาก เช่น เนื้อเยื่อไขมัน หรือเนื้อเยื่อจากสายสะดือของลูกสัตว์แรกเกิด (ในกรณีที่วางแผนแต่ต้น) การเก็บเกี่ยวจะทำภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้เนื้อเยื่อที่ดี ปลอดเชื้อ และปลอดภัย
- สกัดและเพาะเลี้ยง เมื่อได้ตัวอย่างเนื้อเยื่อมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะนำไปสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมา จากนั้นจะนำสเต็มเซลล์ที่ได้ไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสูง เพื่อเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์ให้มีปริมาณมากเพียงพอสำหรับการเก็บรักษาและนำไปใช้ในอนาคต
- การพิสูจน์เซลล์ เมื่อสกัดและเพาะเลี้ยงแล้วผู้เชี่ยวชาญต้องนำไปตรวจพิสูจน์ ว่าเซลล์นั้นๆ คือสเต็มเซลล์ จริงหรือไม่ มีคุณภาพเป็นอย่างไร และมีความปลอดเชื้อในระดับ medical grade หรือไม่ ก่อนที่จะให้มีการนำมาใช้ในการรักษาจริง
- จัดเก็บ สเต็มเซลล์ที่ผ่านกระบวนการเพาะเลี้ยงแล้ว จะถูกนำไปจัดเก็บในถังไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ (ประมาณ -196 องศาเซลเซียส) ซึ่งเป็นสภาวะที่ทำให้สเต็มเซลล์คงสภาพมีชีวิตอยู่ได้เป็นระยะเวลานานหลายสิบปี โดยไม่เสื่อมสภาพ
ทำไมต้องฝากสเต็มเซลล์?
การฝากสเต็มเซลล์ในธนาคารสำหรับสัตว์เลี้ยงมีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสัตว์เลี้ยงในกลุ่มต่อไปนี้
- ลูกสัตว์แรกเกิด การเก็บสเต็มเซลล์จากสายสะดือตอนคลอด เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะสเต็มเซลล์ยังบริสุทธิ์และมีคุณภาพสูง และยังไม่มีร่องรอยความเสียหายจากการเจ็บป่วยหรือสิ่งแวดล้อม
- สัตว์เลี้ยงที่อายุเริ่มมากขึ้น แม้จะไม่ได้เก็บตั้งแต่เด็ก แต่การเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมันของสัตว์เลี้ยงที่โตแล้วก็เป็นประโยชน์ในการเตรียมพร้อมรับมือกับความชรา และโรคที่มักเกิดเมื่อสูงวัย เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือความเสื่อมของอวัยวะ ต่างๆ ในร่างกาย
- สัตว์เลี้ยงที่กำลังป่วย หรือมีแนวโน้มป่วย หากสัตว์เลี้ยงมีภาวะเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โรคข้อเสื่อม, โรคไตเรื้อรัง, โรคตับ โรคช่องปากอักเสบ ชัก โรคภูมิแพ้ หรืออัมพาต การมีสเต็มเซลล์ของตัวเองเก็บไว้ จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
ประโยชน์ของการมี “สเต็มเซลล์ของตัวเอง”
การใช้สเต็มเซลล์ที่มาจากตัวสัตว์เลี้ยงเอง (Autologous Stem Cells) มีข้อดีที่สำคัญคือ
- ปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงต่อการแพ้หรือการปฏิเสธเซลล์ เพราะเป็นเซลล์ที่มาจากร่างกายของสัตว์เลี้ยงเอง
- ประสิทธิภาพสูง เซลล์มีความเข้ากันได้ทางพันธุกรรม 100% ทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการรักษาสูงกว่า
ธนาคารสเต็มเซลล์ การลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคตของสัตว์เลี้ยง
จากทั้งความปลอดภัย โอกาสในการรักษาโรคที่ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่างความเสื่อม ความชราของร่างกาย การมีธนาคารสเต็มเซลล์เป็นของตัวเองก็เปรียบเสมือนการทำประกันสุขภาพล่วงหน้า ที่ให้ความอุ่นใจแก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคน
หากคุณกำลังมองหาวิธีการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงให้ดีที่สุด และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต “ธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับสัตว์เลี้ยง” คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งครับ
ปรึกษาสัตวแพทย์ด้านสเต็มเซลล์ เพื่อวางแผนอนาคตสุขภาพที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนสี่ขาของคุณได้เลยครับ