🐶 เคลื่อนไหวไม่ปกติในสุนัข แยกอย่างไรระหว่างข้อเสื่อม กล้ามเนื้ออักเสบ หรือโรคทางระบบประสาท?

สุนัขหรือลูกสุนัขที่อยู่ดี ๆ ก็มีอาการ เดินเซ ขาอ่อนแรง หรือเดินกะเผลก เป็นอาการที่ทำให้เจ้าของหลายคนกังวล แต่รู้หรือไม่ว่าอาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมากกว่าแค่โรคข้อเสื่อม? การสังเกตอาการของสุนัขอย่างละเอียดและเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณพาสุนัขไปรับการรักษาได้ตรงจุด รวดเร็ว และลดความเสี่ยงอาการทรุดลงอย่างถาวร

🦴โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)

• สัญญาณเตือน เดินขากะเผลกเป็น ๆ หาย ๆ โดยเฉพาะตอนเช้าหรือตอนลุกจากที่นอน ขาอ่อนแรงเมื่อใช้ขาหนัก ๆ เช่น กระโดดหรือขึ้นลงบันได 
• อาการร่วม เคลื่อนไหวเชื่องช้า, ไม่อยากลุกหรือเดิน, กล้ามเนื้อขาลีบลงเมื่อเวลาผ่านไป 
• ลักษณะการเจ็บ ปวดแบบเรื้อรัง แต่ไม่รุนแรงเฉียบพลัน

👉 หากสงสัยว่าอาการเดินผิดปกติมาจากโรคข้อเสื่อม แนะนำอ่านบทความ “สุนัขของคุณเดินเซหรือผิดปกติหรือเปล่า? อาการเล็กๆ ที่อาจเป็นจุดเริ่มโรคข้อเสื่อม” เพื่อเข้าใจและป้องกันได้อย่างถูกต้อง

💪กล้ามเนื้ออักเสบ (Myositis หรือ Muscle strain)

• สัญญาณเตือน เจ็บเฉียบพลันหลังวิ่งหรือเล่นหนัก เช่น สุนัขเดินปกติอยู่ดี ๆ แล้วร้องหรือหยุดเดินทันที 
• อาการร่วม บางส่วนของขาบวม, ร้องเสียงดังเมื่อจับหรือกดตรงกล้ามเนื้อ, ขยับขาแล้วเจ็บ 
• ลักษณะการเจ็บ ปวดเฉียบพลัน, ดีขึ้นใน 1–2 สัปดาห์ถ้าได้พัก และได้รับการรับการรักษาอย่างเหมาะสม

🧠โรคทางระบบประสาท เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Intervertebral disc disease, IVDD) หรือโรคเกี่ยวกับไขสันหลัง

• สัญญาณเตือน เดินเซเหมือนเมา ขาไขว้ซ้อนกัน เดินลากขา หรือควบคุมการเคลื่อนไหวขาไม่ได้ 
• อาการร่วม กล้ามเนื้อกระตุกหรือชักบางครั้ง, สูญเสียการควบคุมของกล้ามเนื้อ การขับถ่าย (ถ่ายหรือปัสสาวะไม่รู้ตัว), ขาอ่อนแรง สูญเสียการความรู้สึกรับรู้ อาการแย่ลงอย่างรวดเร็วในไม่กี่ชั่วโมง หรือเฉียบพลัน,  
• ลักษณะการเจ็บ กรณีมีอาการเฉียบพลันมักมีอาการเจ็บรุนแรง กรณีเรื้อรังอาจมีหรือไม่มีอาการเจ็บอาการทางการเคลื่อนไหวชัดเจน

📝 เคล็ดลับการสังเกตเบื้องต้นที่เจ้าของทำได้

✅ ตรวจเช็คการลงน้ำหนักแต่ละขา ถ้ามีการยกขา ไม่ลงน้ำหนัก ไม่ยอมใช้ขาใดขาหนึ่ง อาจเจ็บกระดูกหรือกล้ามเนื้อ

✅ สังเกตการทรงตัว ถ้าเสียสมดุลยืนตัวเอียง เบี่ยงไปข้างใดข้างนึง  แนะนำส่งสุนัขพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

✅ เช็คอาการบวม ร้อน หรือกดเจ็บเฉพาะจุด มักสัมพันธ์กับการอักเสบเฉียบพลันของร่างกายบริเวณนั้นๆ

✅ สังเกตความต่อเนื่อง และความรุนแรงของอาการ ถ่ายวีดิโอ และพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลในการวินิจฉัยให้แก่สัตวแพทย์

📌 เมื่อมีอาการแบบไหนควรรีบพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ทันที?

• มีอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัสตัว
• ขาไม่ลงน้ำหนัก เดินกะเผลก
• ขาอ่อนแรงเฉียบพลัน และ/หรือมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว
• ไม่ค่อยยอมเคลื่อนไหว ยืดคอ หอบหายใจ

🚨 ทำไมต้องรีบแยกสาเหตุ

การแยกสาเหตุได้รวดเร็ว จะช่วยให้การรักษาตรงจุด และเพิ่มโอกาสการกลับมาปกติได้มากที่สุด เช่น ถ้าเป็น โรคข้อเสื่อม อาจใช้การปรับพื้นที่ในการดูแล ควบคุมน้ำหนัก อาหาร ควบคุมความเจ็บปวด กายภาพเสริมกล้ามเนื้อ ทานอาหารบำรุงข้อ หรือรักษาด้วย สเต็มเซลล์ ต่อหากเป็นโรคทางระบบประสาทอย่างหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (IVDD) ต้องเข้ารับการรักษาเฉพาะทางอย่างทันท่วงที