หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า “โรคพยาธิเม็ดเลือด” คือหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในสุนัขและแมว โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้มีการควบคุมเห็บหมัดอย่างเหมาะสม หรือใช้ชีวิตนอกบ้าน   ทำให้มีโอกาสถูกเห็บและหมัดกัด และส่งต่อเชื้อต่างๆ ตามมา แม้โดนกัดเพียง 1 ครั้งก็ตาม  เชื้อโรคและพยาธิที่ถ่ายทอดมาจากเห็บหมัด เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดการทำลายของเม็ดเลือดแดง จนสัตว์เลี้ยงแสดงอาการป่วยต่าง ๆ ออกมา เช่นซึม เบื่ออาหาร มีไข้สูง อ่อนแรง เหงือกซีด ตัวเหลือง บางรายอาจมีเลือดออกตามตัว หรือเกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ จนเข้าสู่ระยะวิกฤตอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียตามมาได้ ทำไมการรักษาแบบเดิมจึงอาจไม่เพียงพอ? การรักษาจะเน้นที่การให้ยาปฏิชีวนะ และรักษาตามอาการที่เกิดความเสียหายจากการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเลือด ให้สารน้ำ ควบคุมการอักเสบ หรือให้ยากดภูมิคุ้มกันในกรณีที่ร่างกายเกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันไวเกิน อย่างไรก็ตาม จากความรุนแรงของโรคทำให้หลายครั้งสัตวแพทย์ควบคุมการอักเสบที่เกิดขึ้นทั่วร่างกายได้ยาก หรือเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาควบคู่ขึ้น ทำให้มีการหาแนวทางการรักษาอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการตอบสนองต่อการรักษา   สเต็มเซลล์…อีกทางเลือกที่ให้มากกว่าการรักษา สเต็มเซลล์ได้ถูกนำมาใช้เสริมในการรักษาโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ ช่วยควบคุมการอักเสบในร่างกาย และปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ไวเกิน ทำให้ร่างการเกิดการฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่ถูกทำลาย อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดพังผืดของอวัยวะสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามหลังจากการอักเสบไม่ว่าจะเป็นตับ ไต และส่วนนี้เอง เป็นอีกเหตุผลสำคัญของประโยชน์ การใช้สเต็มเซลล์ร่วมในการรักษาแก่สัตว์เลี้ยงทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว  จึงถือได้ว่าสเต็มเซลล์เป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของที่อยากเพิ่มโอกาสหายและบรรเทาความรุนแรงของโรคให้กับสัตว์เลี้ยงที่รัก สุดท้ายแม้โรคนี้จะดูน่ากลัว แต่ก็สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้โดยการควบคุมเห็บหมัดบนตัวสัตว์เลี้ยง