หมดห่วงเรื่องสุนัขป่วย! เจาะลึกโรคโลหิตจางและการรักษาด้วยพลังของสเต็มเซลล์
Monday, 30 June 2025
by Staff PrecisionVet
โรคโลหิตจาง คืออะไร? โรคโลหิตจาง (Anemia) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “ภาวะซีด” เกิดขึ้นเมื่อร่างกายของสุนัขมีจำนวนเม็ดเลือดแดง หรือมีความเข้มข้นของฮีโมโกลบิน (โปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่จับกับออกซิเจน) ลดน้อยลงกว่าปกติ ทำให้การขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายล้มเหลว อวัยวะจึงเริ่มขาดพลังงานและทำงานผิดเพี้ยนไป สังเกตออาการย่างไร? สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม อาการของโรคโลหิตจางในสุนัขอาจแสดงออกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุของโรค แต่นี่คือสัญญาณเตือนสำคัญที่ควรสังเกต เหงือกและเปลือกตาซีด จากที่เคยเป็นสีชมพูสดใส กลับกลายเป็นสีชมพูอ่อนหรือขาวซีด นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด อ่อนเพลีย ไม่มีแรง สุนัขจะดูเหนื่อยง่าย ไม่ร่าเริงเหมือนเคย นอนมากขึ้น ไม่ค่อยอยากเล่นหรือทำกิจกรรม หายใจเร็วและหอบ เมื่อร่างกายขาดออกซิเจน หัวใจและปอดต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นผลสืบเนื่องมาจากความอ่อนเพลียและการทำงานที่ผิดปกติของร่างกาย อาจพบปัสสาวะสีเข้ม หรือมีภาวะดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ในบางกรณีที่เม็ดเลือดแดงถูกทำลายอย่างรุนแรง สาเหตุของโรคโลหิตจาง ศัตรูตัวร้ายมาจากไหน? โรคโลหิตจางในสุนัขไม่ได้เกิดขึ้นเองเฉยๆ แต่มีสาเหตุการเกิดโรคโลหิตจางอยู่เสมอ โดยเราสามารถแบ่งสาเหตุหลักๆ ได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ การเสียเลือด (Blood Loss) เกิดได้ทั้งการเสียเลือดแบบเฉียบพลันจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด หรือมีเลือดออกภายในร่างกายของสุนัขซึ่งเรามองไม่เห็น
- Published in สุนัข
No Comments
โรคไตในแมว ปัญหาสุขภาพที่มองไม่เห็นอาจอันตรายถึงชีวิต
Monday, 16 June 2025
by Staff PrecisionVet
แมวเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมสุขุมและมักไม่แสดงอาการเจ็บป่วยให้เห็นง่ายๆ แต่โรคหนึ่งที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในแมวอายุมากคือ “โรคไต” ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทำงานของไตลดลง ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยกรองของเสียออกจากเลือด ควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย และสร้างฮอร์โมนบางชนิด เมื่อไตเริ่มเสื่อมตามวัย หรือเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีนิ่วมาอุดตัน ก็จะส่งผลให้ร่างกายสะสมของเสียไว้มากขึ้น โดยเฉพาะของเสียจากการเผาผลาญโปรตีน เช่น ยูเรียและครีอะตินีน ทำให้แมวเริ่มมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน น้ำหนักลด ขนหยาบ และอาจถึงขั้นมีอาการทางระบบประสาท เช่น เดินเซ หงุดหงิด โรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด แต่จะพัฒนาอย่างช้าๆ จึงยากต่อการสังเกตเห็น และเมื่อเจ้าของพาแมวไปหาสัตวแพทย์ อาการมักจะอยู่ในระยะลุกลามแล้ว ยิ่งไตเสียหายมากเท่าไร โอกาสฟื้นฟูก็ยิ่งน้อยลง การดูแลจึงต้องเน้นการชะลอการเสื่อมของไตให้นานที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร การให้น้ำอย่างเพียงพอ หรือการใช้ยาเพื่อลดอาการต่างๆ แต่สิ่งที่กำลังเป็นความหวังใหม่ของการรักษาโรคไตในแมว คือ “สเต็มเซลล์” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เพียงแค่บรรเทาอาการ แต่ยังมีศักยภาพในการฟื้นฟูไตให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น สัญญาณเตือนที่เจ้าของแมวไม่ควรมองข้าม แมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตหรือปัสสาวะ อาจเริ่มจากอาการเล็กน้อย เช่น ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ปัสสาวะแล้วเหมือนเจ็บ หรือเริ่มเลียอวัยวะเพศบ่อย อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคไตเรื้อรัง (ที่พบมากในแมวสูงวัย) หรือท่อปัสสาวะอุดตันซึ่งพบได้บ่อยในแมวเพศผู้ หากปล่อยไว้อาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้นจนวายได้ การสังเกตอาการเบื้องต้นและพาไปพบสัตวแพทย์ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือตรวจอัลตราซาวด์ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลแมวอย่างเข้าใจ สเต็มเซลล์ช่วยรักษาอย่างไร?
- Published in แมว